Search
Close this search box.

Day: October 30, 2024

Cavli Wireless เป็นที่ยอมรับในฐานะหนึ่งใน Nasscom Emerge 50 Innovator ประจำปี 2024 เป็นผู้นำโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงที่ “ผลิตในอินเดีย” เพื่อขับเคลื่อน IoT และการเชื่อมต่อไร้สายทั่วโลก

Cavli Wireless ได้รับรางวัลหนึ่งในบริษัท Nasscom Emerge 50 แห่ง ยังคงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี IoT และเทคโนโลยีไร้สายที่ “ผลิตในอินเดีย” บังกาลอร์ อินเดีย, Oct. 30, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Cavli Wireless ผู้บุกเบิกระดับแนวหน้าด้านโซลูชันการเชื่อมต่อ IoT แบบเซลลูลาร์และแบบไร้สาย ได้มีชื่อติดอันดับหนึ่งในผู้ชนะรางวัล Nasscom Emerge 50 Awards ประจำปี 2024 การยอมรับอันทรงเกียรตินี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Cavli ในการบุกเบิกเทคโนโลยีและโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงที่ “ผลิตในอินเดีย” ซึ่งทำให้บริษัทมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัปชั้นนำของอินเดียที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับระบบไร้สายและ IoT รางวัล Nasscom Emerge 50 Awards มอบให้แด่บริษัทสตาร์ทอัปที่มีแนวโน้มดีที่สุดของอินเดียซึ่งกำลังก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และมีส่วนช่วยทั้งการเติบโตในระดับประเทศและการเชื่อมต่อระดับโลก รางวัล Nasscom Emerge 50 Awards ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่สิบสี่แล้ว เป็นหนึ่งในการมอบรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดสำหรับบริษัทสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีในอินเดีย ในแต่ละปี Nasscom จะคัดเลือกบริษัทสตาร์ทอัปที่มีนวัตกรรมและศักยภาพสูง 50 แห่ง ซึ่งมีแนวโน้มจะสร้างผลกระทบที่สำคัญต่อภูมิทัศน์ด้านเทคโนโลยีของทั้งอินเดียและทั่วโลก รางวัลนี้มุ่งเน้นที่การส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในสาขา เช่น IoT, AI และ SaaS ซึ่งเป็นเครื่องมือในการจัดการอุปสรรคทางเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ สำหรับ Cavli Wireless การได้รับเลือกเป็นผู้ชนะในปี 2024 เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู้นำนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยีแบบไร้สายและการเชื่อมต่อ การยอมรับนี้ยังเสริมสร้างจุดยืนของ Cavli ในระบบนิเวศเทคโนโลยีขั้นสูงของอินเดีย และชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่ “ผลิตในอินเดีย” ของบริษัทในระดับโลก ภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของอินเดียได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่น ด้วยการลงทุนที่พุ่งขึ้นจาก 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 เป็นมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ปัจจุบันระบบนิเวศนี้เป็นที่ตั้งของบริษัทสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่า 3,000 แห่ง โดยเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์, IoT และวัสดุขั้นสูง โครงการริเริ่มของรัฐบาล เช่น Deep Tech Mission และการจัดตั้งศูนย์รวมนวัตกรรมเทคโนโลยีในเมือง 25 แห่งได้กระตุ้นการขยายตัวนี้ ตามรายงานของ NASSCOM การนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาปรับใช้ในอินเดียเติบโตขึ้นที่อัตราเฉลี่ยปีละ 45%

2ONE® Nicotine Pouches จับมือกับ MBM Motorsports ในการสนับสนุนการแข่งขันหลายรายการ

Josh Bilicki และ Chad Finchum จะได้ลงสนามแข่งขัน NASCAR Cup Series ด้วยรถ 2ONE Pouches หมายเลข 66 สเตตส์วิลล์ นอร์ตแคโรไลนา, Oct. 30, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Motorsports Business Management (MBM Motorsports) ได้ลงนามในข้อตกลงสนับสนุนการแข่งขันหลายรายการกับ 2ONE® Nicotine Pouches (“Twenty-One”) ในการปิดฉากการแข่งขันชิงแชมป์ NASCAR Cup Series ประจำปี 2024 รถ Ford Mustang Dark Horse 2ONE Nicotine Pouches / Coble Enterprises หมายเลข 66 จะลงแข่งที่สนาม Martinsville Speedway โดยมี Josh Bilicki เป็นนักขับในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน และลงแข่งที่สนาม Phoenix Raceway โดยมี Chad Finchum เป็นนักขับในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน Vincent Schuman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ 2ONE Labs กล่าวว่า “การสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นความพยายามของเราในการตอบแทนแฟน ๆ กีฬาแข่งรถสำหรับผู้ใหญ่ที่กำลังเพลิดเพลินกับประสบการณ์การใช้ถุงนิโคติน 2ONE และสำหรับผู้บริโภคที่อาจไม่คุ้นเคยกับนิโคตินแบบซองรสชาติดีของเรา เราเชื่อว่าการสนับสนุนจาก 2ONE จะเป็นการนำเสนอวิธีที่มีความหมายในการสัมผัสภาพลักษณ์ของแบรนด์ชั้นนำ โดยนำเสนอในรูปแบบของรถสำหรับทีมอันยอดเยี่ยมในการแข่งขันสุดคลาสสิก” Josh Bilicki จะแข่งขันที่สนาม Martinsville Speedway ซึ่งถือเป็นการแข่งขัน NASCAR Cup Series ครั้งที่ห้าในอาชีพการแข่งขันของเขาในรายการ Xfinity 500 ผลงานที่ดีที่สุดของนักแข่งที่เป็นชาวเมืองเมโนโมนีฟอลส์ รัฐวิสคอนซินผู้นี้ในการแข่งขันซีรีส์ Cup ที่สนามแห่งนี้คืออันดับที่

2ONE Labs ได้รับ “การยอมรับ” จาก FDA เกี่ยวกับ PMTA สำหรับผลิตภัณฑ์ยาสูบของแบรนด์ 2ONE® Nicotine Pouch

เลคทาโฮ รัฐเนวาดา, Oct. 30, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — 2ONE Labs Inc. ยินดีประกาศให้ทราบถึง “การยอมรับ” จากสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาในการยื่นขออนุญาตผลิตภัณฑ์ยาสูบก่อนวางตลาด (PMTA) สำหรับนิโคตินแบบซองของแบรนด์ 2ONE® หลังจากได้รับทราบการแจ้ง “การยอมรับ” จาก FDA นาย Vincent Schuman ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหารของ 2ONE Labs กล่าวว่า “การยอมรับนี้หมายความว่า การขออนุญาต PMTA ของ 2ONE® จะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญถัดไปของการตรวจสอบโดย FDA บริษัทของเราจะยังคงให้การสนับสนุนการยื่นขออนุญาตครั้งนี้อย่างเต็มที่จนถึงผลสำเร็จ และพันธมิตรด้านค้าส่ง ค้าปลีก และการสนับสนุนของเราควรมั่นใจใน “การยอมรับ” นี้ว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความสามารถของเราในการดำเนินกระบวนการ PMTA ที่ซับซ้อนนี้ และแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนความพร้อมจำหน่ายในระยะยาวของแบรนด์ 2ONE® ในตลาดสหรัฐฯ” Schuman กล่าวเสริมว่า “เราได้ผลิตนิโคตินแบบซอง 2ONE® สำหรับผู้ใช้ที่บรรลุนิติภาวะ (21 ปีขึ้นไป) ซึ่งเผชิญอุปสรรคในการเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ยาสูบที่เผาไหม้หรือผลิตภัณฑ์ใบยาสูบแบบดั้งเดิม แบรนด์ 2ONE® ซึ่งวางจำหน่ายในตลาดมาตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการสร้างความสนใจและการเติบโตด้วยความร่วมมืออันแน่นแฟ้นกับร้านค้าปลีก เช่น Circle K® นั้น แสดงให้เห็นว่า แม้แต่บริษัทที่มีนวัตกรรมก็สามารถค้นพบและนำเสนอแบรนด์ที่ไม่เหมือนใครและนำเสนอผลิตภัณฑ์ทดแทนที่สมบูรณ์แบบให้แก่ผู้ใหญ่ได้อย่างแท้จริง เราได้รับกำลังใจจากการยอมรับของ FDA เกี่ยวกับการยื่นขอ PMTA ให้กับ 2ONE® และเราหวังว่าจะยังคงได้สนับสนุนความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มผู้ใหญ่ที่เปลี่ยนมาจากผลิตภัณฑ์ใบยาสูบ” ผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบซองของ 2ONE® มีนิโคตินหลากหลายระดับให้เลือก และมีรสชาติที่น่าพึงพอใจ โดยวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกกว่า 18,000 แห่งทั่วประเทศ และผู้บริโภคกลุ่มผู้ใหญ่สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ 21Pouches.com เกี่ยวกับ 2ONE® Nicotine Pouches 2ONE Labs Inc.: 2ONE Labs ก่อตั้งโดยผู้บุกเบิกด้านการผลิตนิโคตินสังเคราะห์ และเชี่ยวชาญในการจัดหาผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบปลอดยาสูบที่มีนวัตกรรมที่สุด สำหรับผู้บริโภคกลุ่มผู้ใหญ่ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการทดแทนผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่น ๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ 21Pouches.com 2ONE® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ 2ONE Labs Inc. เมืองทะเลสาบทาโฮ รัฐเนวาดา สงวนลิขสิทธิ์ ที่มา: 2ONE LABS INC. ติดต่อ: [email protected] GlobeNewswire

eXp Realty เปิดตัวโปรแกรมจูงใจ ICON และ Revenue Share Capping ซึ่งจะเข้ามาพลิกโฉมวงการที่งาน eXpcon Miami

นี่คือโครงการริเริ่มใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการเติบโตของตัวแทนและปลดล็อกศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ไม่เคยมีมาก่อน เบลลิงแฮม วอชิงตัน, Oct. 30, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — eXp Realty® “the most agent-centric real estate brokerage on the planet” (“บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดตัวตัวแทนเป็นศูนย์กลางมากที่สุดในโลก”)และเป็นบริษัทย่อยหลักของ eXp World Holdings, Inc. (Nasdaq: EXPI) ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มอันล้ำสมัยสองโครงการที่งาน eXpcon Miami ได้แก่ โปรแกรมจูงใจ ICON และโปรแกรมจูงใจ Revenue Share Capping โดยจะมีผลเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ทั้งสองโครงการได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับความสำเร็จของตัวแทน โดยช่วยในการปลดล็อกโอกาสในการสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นและผลักดันความสำเร็จทางธุรกิจให้มากขึ้น “โครงการริเริ่มเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเราในการส่งเสริมศักยภาพให้กับตัวแทนในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา” Glenn Sanford ผู้ก่อตั้ง ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ eXp World Holdings กล่าว “ที่ eXp เรารู้ดีว่า เมื่อตัวแทนของเราประสบความสำเร็จ เราก็จะประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน โปรแกรมเหล่านี้ช่วยให้ตัวแทนของเราสามารถปลดล็อกช่องทางรายได้ใหม่ ขยายธุรกิจ และใช้ประโยชน์จากโมเดลของเราที่ยึดมั่นตัวแทนเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” โปรแกรมจูงใจ ICON การได้รับสถานะตัวแทน ICON ซึ่งเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติที่มอบให้กับตัวแทนที่มีผลงานดีเด่น จะทำให้ตัวแทนมีความสามารถในการเพิ่มศักยภาพของระบบแบ่งรายได้อันเป็นเอกลักษณ์ของ eXp Realty เพื่อเพิ่มรายได้ในระยะยาวและการเติบโตของธุรกิจ โปรแกรมจูงใจ ICON จะให้เครดิตแก่ตัวแทน ICON ที่มีคุณสมบัติในระดับแนวหน้าตามที่กำหนด (Front Line Qualifying Agents หรือ FLQA) จำนวน 30 รายเป็นเวลา 13 เดือน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแบ่งรายได้ให้สูงสุดสำหรับทั้งเจ็ดระดับ โปรแกรมจูงใจ Revenue Share Capping โปรแกรมนี้จะทำให้ตัวแทนที่ปิดการทำธุรกรรมได้ถึงระดับที่กำหนด ได้รับเครดิต 10 FLQA ทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้จนถึงระดับ 5 เป็นเวลา 13 เดือน กระแสรายได้เพิ่มเติมนี้ช่วยให้ตัวแทนมีศักยภาพในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้ตัวแทนอยู่ในจุดที่เติบโตได้เร็วขึ้นและประสบความสำเร็จทางการเงินมากขึ้น “โปรแกรมเหล่านี้กำลังเปิดตัวในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับตัวแทนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์”

Unipart คว้าสัญญาการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับ Vanchanggo ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงของเกาหลีใต้

อ็อกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร, Oct. 30, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Unipart พันธมิตรด้านโซลูชันห่วงโซ่อุปทานและเทคโนโลยีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ได้รับสัญญาสามปีกับ Vanchanggo ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงแบบ B2B และ B2C ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเกาหลีใต้ Unipart จะให้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ครบวงจรแก่ Vanchanggo จากสถานประกอบการขนาด 12,000 ตร.ม. ในจังหวัดคยองกีโด โดยปรับห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะสมเพื่อให้การดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ สถานประกอบการดังกล่าวเปิดเมื่อต้นเดือนนี้ Unipart ได้ดำเนินธุรกิจในเกาหลีใต้มาตั้งแต่ปี 2010 โดยให้บริการโซลูชันโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานแก่ลูกค้าในภาคธุรกิจยานยนต์และการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Carl Williams กรรมการผู้จัดการของ Unipart ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า: “เราปลาบปลื้มใจที่ได้รับสัญญานี้กับ Vanchanggo รวมทั้งตั้งตารอที่จะผลักดันประสิทธิภาพและการเติบโตในการดำเนินงานของ Vanchanggo “สัญญาระยะสามปีนี้เป็นตัวแทนความสำเร็จครั้งใหญ่ของ Unipart ที่แสดงถึงการโน้มน้าวและขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นของเราในภูมิภาคนี้ “จากการเข้าสู่ตลาดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผันผวนของเกาหลีใต้ Unipart ก็ได้ตอกย้ำบทบาทผู้เล่นที่หลากหลายและมีชั้นเชิงด้านโลจิสติกส์และการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก” Bongjun Kim ในฐานะ CEO ของ Vanchanggo กล่าวว่า: “เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ Unipart Korea ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราได้ส่งถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและปลอดภัย” “ด้วยความสามารถในการจัดการโลจิสติกส์ที่ยอดเยี่ยมของ Unipart Korea เราคาดหวังว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ของ Vanchanggo และยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าได้อีก” “เรามุ่งหวังที่จะส่งเสริมการเติบโตร่วมกันและรักษาความสัมพันธ์การทำงานที่ใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินงานด้านโลจิสติกส์เป็นไปอย่างประสบความสำเร็จผ่านข้อตกลงนี้” สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ [email protected] ดูภาพประกอบคำประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/45a3cb36-e9e3-47fe-bd40-815d44eb0b6e GlobeNewswire Distribution ID 1001010235

Quantexa ก้าวสู่สถานะ Centaur ด้วยรายได้ประจำปีทะลุ 100 ล้านดอลลาร์

กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่โดดเด่น การดำเนินงานทั่วโลก และกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดของ Quantexa ได้ปูทางสำหรับการเติบโตต่อเนื่อง โดยสนับสนุนฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นในการสร้างรากฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับ AI ลอนดอน, Oct. 30, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Quantexa ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน Decision Intelligence (DI) สำหรับภาครัฐและเอกชน ได้ประกาศในวันนี้ว่าบริษัททำรายได้ประจำปีทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ ความสำเร็จนี้ทำให้ Quantexa บรรลุสถานะ Centaur โดยการเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจ SaaS ชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในประเภทนี้ ซึ่งริเริ่มเป็นครั้งแรกโดย Bessemer Ventures Partners การบรรลุสถานะ Centaur ถือว่าหายากกว่าการได้สถานะ Unicorn ถึงเจ็ดเท่า ในเดือนเมษายน 2023 ทาง Quantexa ประกาศว่าได้บรรลุสถานะ Unicorn หลังจากปิดรอบระดมทุนซีรีส์ E ด้วยยอด 129 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าหลังการระดมทุนที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์ ในฐานะองค์กรล่าสุดที่ได้รับสถานะ Centaur ธุรกิจนี้ซึ่งก่อตั้งในสหราชอาณาจักรจึงเข้าร่วมกลุ่มบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับสถานะนี้ทุกปี Vishal Marria ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Quantexa กล่าวว่า “ในฐานะธุรกิจที่ก่อตั้งในสหราชอาณาจักร เรามุ่งมั่นที่จะรักษาระดับอยู่ในแนวหน้าด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี โดยการบุกตลาดและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่ Quantexa เราได้พบเจอการเติบโตในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องด้วยการสนับสนุนของทีมที่มีความสามารถของเรา ความไว้วางใจจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ความตื่นตัวของกลุ่มพันธมิตรที่ขยายกว้างขึ้น และวิสัยทัศน์ร่วมของนักลงทุน เราจึงสามารถลงทุนเพื่อขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์มและการดำเนินงานทั่วโลก ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งและนำพาสู่ความสำเร็จครั้งนี้“ Marria กล่าวต่อว่า “ด้วยรากฐานแพลตฟอร์มและกลุ่มนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง พื้นที่ให้บริการทั่วโลก และกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดแบบปรับขนาดได้ เราพร้อมที่จะขยับขยายฐานลูกค้าให้เติบโต รวมทั้งตอบสนองความต้องการสำหรับการรวมข้อมูลขั้นสูงและโซลูชัน AI แบบสร้างสรรค์ เราเล็งเห็นว่าองค์กรต่าง ๆ หันมาใช้ AI ในการใช้งานที่หลากหลาย และเราค้นพบว่า หากไม่มีรากฐานข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กร ก็ไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้งานในระดับขนาดใหญ่ได้ ลูกค้าจึงร่วมมือกับ Quantexa ในการทำความสะอาด คัดสรร และปรับบริบทของข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโครงการ AI ต่าง ๆ“ เหตุการณ์สำคัญทางธุรกิจครั้งล่าสุดนับตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ 2024: Quantexa มีลูกค้าชั้นนำระดับโลกอีก 30 ราย เช่น หน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกาและ Novobanco ตลอดจนผู้นำในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินและหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก โดยเพิ่มรายได้ประจำปีจาก Decision Intelligence ขึ้น 20% สัมพันธภาพกับลูกค้ารายปัจจุบันที่เพิ่มพูนขึ้น มีส่วนช่วยต่อการสร้างรายได้ประจำปีจาก Decision Intelligence ใหม่ ๆ มากกว่า 50% ขณะนี้บริษัทพบว่ารายได้จาก Decision Intelligence ถึง 30% มาจากนอกอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน จากการขยายพื้นที่ให้บริการทั่วโลกไปยังสำนักงาน 16 แห่ง โดยเมื่อไม่นานนี้คือในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ปัจจุบัน Quantexa มีพนักงานมากกว่า 800 คน และรักษาฐานลูกค้านอกยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกามากกว่า 50% ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่สำคัญกับ Microsoft และ Databricks เพื่อช่วยลูกค้าขยายขอบเขตข้อมูลและการริเริ่มด้าน AI กลุ่มพันธมิตรที่ขยายกว้างขึ้นของ Quantexa มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จในการเพิ่มลูกค้าใหม่มากกว่า 50% โดยการเตรียมตลาด โน้มน้าวการตัดสินใจ และส่งเสริมการขายผ่านช่องทาง Decision Intelligence แสดงให้เห็นโอกาสทางการตลาดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์